วันอังคารที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

บทเปิดตัว


เปิดไปดูเล่นๆ ในคลังข้อมูลส่วนตัว กลับไปเจอเรื่องราวที่เคยเขียนเอาไว้ที่ หงส์มาร
สมัยเปิดตัวครั้งแรก ดูวันเวลาที่เอกสารโดนเซฟ ก็ล่วงเลยมา 3 ปี แล้วซิ นะ 15/5/2551 นู่นแน่ะ
เอามาเก็บๆ ไว้ ที่นี่เลยแล้วกัน


"ต้มถั่ว ใช้เถาว์ถั่วเป็นฟืน เกิดจากรากเหง้าเดียวกัน ไยต้องเผาผลาญกัน"

                อีกหนึ่งประโยคคลาสสิคของบรรณพิภพ จากปลายปากกาที่ตวัดและขีดเขี่ยขึ้น โดย มังกรแห่งนวนิยายกำลังภายใน  "โก้วเล้ง" บอกเล่าถึงเรื่องราวของพี่น้องที่แก่งแย่งช่วงชิงบัลลังค์ โดยหากจะมองย้อนกลับมาสู่ในโลกแห่งความเป็นจริง ณ พุทธศักราช นี้ คงไม่มีทีมไหนในโลกที่ประสบชะตาเยี่ยงนี้เฉกเช่นทีมรัก ลิเวอร์พูล ของเรานี่เอง หนำซ้ำมันยังเกิดขึ้นในทุกหย่อมหญ้าบนปฐพี จากขอบฟ้าแสนไกลบนเขตคามกลิ่นอายผู้ดี ถึงอีกขอบซีกโลกบนผืนแผ่นดินแหลมทอง

                ด้านซีกโลกฝั่งตะวันตก นับจากวันแรกแห่งการเหยียบย่างเข้ามาของสองเจ้าของร่วมดูโออเมริกันชน ซึ่งเหมือนจะไปได้สวยกับสังเวียนลูกหนังอันเป็นที่รักแห่งนี้ รอบปีที่ผ่านมากลับกลายเป็นสโมสรที่อยู่ภายใต้เงื้อมมือของสองศัตรูร่วมที่มิอาจอยู่ร่วมฟ้า ใต้เงาแห่งความอึมครึม ปรากฏเค้ารางมหันตภัยอย่างเป็นระยะๆ จนมิอาจควบคุม ข่าวคราวร้ายๆ มักก่อเกิดอยู่เนืองๆ โดยมิได้รับการเยียวยาและมิอาจหาความชัดเจนได้ ทุกอย่างยืดเยื้อและไม่มีทีท่าจะหยุดนิ่ง แม้กระทั่งวันสิ้นสุดฤดูกาลก็ตาม ขาย ไม่ขาย หุ้น / สร้าง ไม่สร้าง สนาม / มี ไม่มี เงินในการไล่ล่าหาอาวุธยุทธภัณฑ์ เรื่องราวเหล่านี้ล้วนเลือนราง แม้จวบจนวันนี้ ใครจะเป็นคนอนุมัติงบประมาณ และเป็นจำนวนเงินเท่าไหร่ สำหรับการต่อเติมฝันอันแสนสวยงามของทีม ทีมอันพิเศษเยี่ยงนี้ นี่ยังไม่นับเรื่องราวต่างๆ อีกมากมายที่ได้บังเกิดขึ้นในรอบฤดูที่ผ่านมา ทั้งการจากไปของมือขวาระดับอ๋อง อาการบาดเจ็บของเหล่าขุนพลแข้ง ในขณะที่บางส่วนเกิดอาการฟอร์มหล่นจนมิอาจเยียวยาในระยะเวลาอันสั้น ไม่นับข่าวคราวร้ายๆ สวนกระแส อย่างการติดต่อกุนซือใหม่ และอีกมากมายจนนับไม่ถ้วน

                ฝ่าฝันข้ามทิวฟ้ามายังดินแดนแหลมทอง เหล่า เดอะ คอป มากหน้าหลายตาต่างทยอยสู่เส้นทางแห่งฝัน เพื่อค้นหาความเป็นจริง บ้างเยื้องกรายมาอย่างแน่วแน่ เพื่อพบปัญหาสารพัน แต่รางคนกลับมาเพียงแค่หวังให้เกิดปาฏิหารย์ชั่วข้ามวัน อะไรเอยจสามารถพิสูจน์คุณธรรมน้ำมิตร หรือ พิสูจน์เรื่องราวเหล่านั้น คำตอบที่บังเกิดกลับไม่มี ต่างคนต่างมีเหตุผล ต่างคนต่างมีอีโก้ ซุบเปอร์อีโก้ ต่างหาก บ้างอ้างมีบอร์ดไว้เพื่อแสดงความเห็น บ้างอ้างมีสมองไว้เพื่อเสนอแนะ และอีกหลายๆ บ้างอ้าง ว่า มีบอร์ดไว้เพื่อรวมสมองที่ไม่เคยคิดเช่นกัน หลายๆ คนกล่าวอ้างว่ารักทีมมากมาย หลายๆ คนกล่าวอ้างว่ารักทีมขนาดที่ใครไม่เคยพบเจอ แต่หลายๆ อย่างกลับสะท้อนว่าที่จริงคุณไม่เคยสนทีมเลยด้วยซ้ำ เพราะคุณสนแต่อีโก้ และ ซุบเปอร์อีโก้ที่อยู่ในตัวคุณมากมายยิ่งกว่า หลายบอร์ดสบถใส่กันราวกับเด็กไร้การศึกษา ขณะที่อีกหลายบอร์ดพยายามปกป้องทีม แต่พร้อมที่จะเอาข่าวคราวในอีกบอร์ดมาเปิดเผย เพื่อแสดงความรัก หรือเพื่อแสดงตัวตน หากนี่คือพฤติกรรมของสเก๊าซ์เซอร์ตัวจริง ผมคงอดสูตัวตนมากมาย

                ย้อนกลับมาที่ตัวตนของคนเขียน ผมไม่เคยรู้มาก่อนว่าแบบไหน คือ เดอะ คอป ที่ดี ผมไม่เคยรู้เลยว่ากองเชียร์ที่ดีควรเป็นเช่นไหน ซัพพอร์ทที่ดีควรเป็นเยี่ยงไร ในสายตาของพวกคุณผมอาจเป็นแค่เศษเดนเล็กๆ ด้วยซ้ำ กับการเป็นกองเชียร์ทีมที่เชียร์เกือบทั้งชีวิต ผมไม่เคยซื้อผ้าพันคอ เพราะผมไม่รู้จะเอาไปใช้ตอนไหน ขณะที่บ้านเราอากาศร้อนแสนเข็ญ ผมไม่เคยซื้อเสื้อเพราะผมไม่ชอบใส่เสื้ออะไรที่มีโลโก้ ถึงแม้จะภูมิใจแค่ไหนก็ตาม ขณะที่ของจริงราคาอาจทำให้ผมซื้อเสื้ออื่นๆ ได้ 10 ตัว ผมร้องเพลง You'll never walk alone ไม่ได้ แต่ผมทำของขวัญให้ใครๆ ด้วยบทเพลงนี้เสมอ คุณเริ่มสงสัยกันแล้วซิ แล้วผมเกี่ยวอะไร ในเมื่อผมอาจไม่เคยทำอะไรให้ทีมเลย ในสายตาของพวกคุณ ... ตลอดเวลาที่ผมมีและทีมมี ผมให้ได้แค่ไม่กี่อย่าง ผมร้องไห้ วันเกิดโศกนาฏกรรม ผมร้องไห้วันพ่ายแพ้บางเกม ในขณะเดียวผมก็พร้อมทีจะหัวเราะและยิ้มในวันที่ทีมชนะ หรือเสมอ ผมคงทำได้เท่านั้น ขณะเดียวกันสิ่งที่ผมทำได้คือให้แค่กำลังใจ ไม่ว่าเกมที่แพ้ จะมีนักเตะคนไหนไม่วิ่ง พลาดลูกยิงง่ายๆ หรือแม้แต่ทำเข้าประตูตัวเอง กับอีกบางภาพผมก็พร้อมจะตีรันฟันแทงทุกครั้งเมื่อยามใครบางคนทะเล่อทะล่าเข้ามาว่าทีมในบางเวลา ก็คงได้เท่านั้นเหมือนเช่นเคย

                ก็เขียนไม่เป็น เพราะไม่เคยเขียน ไม่เคยฝึกฝน หรือเรียนรู้ แต่ผมเชื่อว่าวันนึงผมคงเขียนได้ดีกว่านี้ ไม่อาจวิพากษ์วิจารณ์ทีมอย่างมากมาย เพราะผมไม่เคยทำทีมนอกจากในเกมส์ และผมเชื่อแค่ว่า หน้าที่ใครหน้าที่มัน หน้าที่ของคนรัก ก็ได้แค่รัก ส่วนเค้าจะรักหรือไม่รัก ก็คงไม่ใช่หน้าที่เรา ก็คงเพียงพอ หน้าที่ของคนเชียร์ทีมล่ะ ขอบเขตควรอยู่แค่ไหน อย่างเคยกล่าวอ้าง ไม่ทราบครับ เพราะไม่รู้ ว่าจริงๆ ขอบเขตแค่ไหนกันแน่ รู้เพียงอย่างเดียว เปิดใจให้กว้าง น้อมรับบางเรื่องราว และโต้เถียงพอสมควร

                ท้ายที่สุดเมื่อต้องถึงคราร่ำลาเสียที แค่ข้อคิดอย่างที่ผมคิดได้เล็กๆ จากโลกของผม "ต้มถั่ว ใช้เถาว์ถั่วเป็นฟืน เกิดจากรากเหง้าเดียวกัน ไยต้องเผาผลาญกัน" เริ่มจากเจ้าของดูโอมหาประลัย จนข้ามน้ำข้ามทะเลมามีปัญหาถึงทุ่งกุลาร้องไห้ แค่อยากบอกซักนิด ทุกคนเกิดจากรากเหง้าเดียวกัน คือ พันธุ์หงส์ แล้วจะเผาผลาญกันเพื่อเหตุใด ส่วนของบอร์ดบริหาร คุณชนะในธุรกิจแล้วคุณได้อะไร นอกจากร่ำรวย หรือ ชื่อเสียง เงินทองคือสิ่งที่คุณต้องการแค่นั้นเหรอ ขณะเดียวกันในอีกซีกโลก คุณเหยียบย่ำด่าทอกระแนะกระแหน๋รววมทั้งผรุสวาทกับกองเชียร์ทีมเดียวกัน คุณเหยียบย่ำนักเตะที่ทุ่มเท คุณไล่โคช ผมแค่อยากลองถาม ว่า มีข้อไหนที่คุณสามารถทำได้ดีกว่าสิ่งที่เป็นอยู่บ้าง นอกจากเห่าหอน ก็เท่านั้น หากทุกคนแค่คิด ว่า ทุกอย่างก็เกิดจากต้นตอเดียวกันเท่านั้นได้ น่าจะถึงเวลาดีดีซักทีบ้าง เพราะอย่างน้อย จากหัวใจที่แตกเป็นเสี่ยงๆ ของบางใจ น่าจะกลับมาหลอมรวม ให้เป็นพลังที่แน่วแน่เพื่อทีมอีกครั้งในฤดูกาลต่อไป

                ความฝัน ความหวัง และ ศรัทธา จะพาเราก้าวเดิน

                หากแม้ในโลกแห่งนวนิยายสามารถสรรค์สร้างประโยคดีดี
ให้ เซียวลี้ปวยตอ หรือ ลี้คิมฮวง ที่ผู้คนมากมายได้รู้จัก ใช้รำพึงรำพันถึงคนรักแล้วไซร้
ในโลกแห่งความเป็นจริงเยี่ยง ณ เพลานี้ คงบังเกิดเช่นกัน
จากประโยค "ชายชาตรีมีรักแท้ แม้ร้อยนางก็มิอาจทดแทน" คงเปรียบเปรยได้ดั่ง
"ชายชาตรีมีรักแท้ แม้ร้อยทีมก็มิอาจทดแทน" เยี่ยงนั้น เสมอมา

เซียวลี้ปวยตอ ขอคารวะ

อนุญาติเผยแพร่บทความนี้ ไปทุกที่เผื่อสมองของบางคนจะเปิดรับ
ไม่สนว่าใครจะเห็นด้วยหรือไม่ แต่ถ้าไม่เห็นด้วย ถ้ารู้แล้วตามเจอ จะตามไปราวี ก็เท่านั้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น