วันจันทร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

เมื่อ ลี้น้อย กลับมา !!


แด่..ดาวเคราะห์ดวงหนึ่งที่เต็มไปด้วยสังคมซังกระบ๊วยและผู้คนตอแหล

สุดท้ายการอยู่กับตัวตน บนฐานความคิดเดิมๆ ในซอกมุมเล็กๆ น่าจะเป็นที่ๆ เหมาะที่สุดของผม
การอยู่กับหมู่เหล่าที่ต่างอับอายในการที่จะเปิดใจถึงขอบเขตแห่งความคิดที่แท้จริง เป็นสิ่งที่ผมกลับไม่ถนัดเท่าไหร่

ใช่เลย !! ผมไม่ถนัดเรื่องตอแหล หลอกลวง และไม่ชินกับการที่ทำตัวให้ดูเหมือนจะเหมือน
การอยู่ท่ามกลางความระแวดระวังและอยากเกทับบลั๊ฟแหลก เพื่อแสดงความเอกอุให้ผู้คนต่างหันมายอมรับนับถือ

นับว่าห่างไกลจากชีวิตและหัวใจตัวเองยิ่งนัก !!

บางครั้งการชักจูงให้คนหันมาเชื่อในสิ่งที่ตัวเองเชื่อ กลับดูไร้ราคาและไม่มีคุณค่าที่ควรเหลียวมองในสายตาคนอื่น
แถมการมีความคิดแบบหัวเดียวกระเทียมลีบ ยิ่งดูเหมือนการตอกย้ำให้ตัวเองเกิดการหวั่นไหวในหลายเรื่องที่ควรกระทำ

เหมือนหากใครได้ติดตามบทความผมมาจะเห็นได้ว่า ภาษา และ ถ้อยคำ สำนวน ของผม มันเกิดการเปลี่ยนแปลง
แต่เชื่ออย่างสนิทใจ ว่า หลังการปลดแอกตัวตน บทความนี้น่าจะกลับมาสู่รอยทางอย่างที่ควร

จริงหรือไม่ !! ใช่หรือหลอก !! หลายท่าน น่าจะมีคำตัดสินให้กับมัน … ??

...........................................

ก่อนฤดูกาลจะเริ่มต้น หากให้เขียนเรื่องถนัดคงไม่พ้นเรื่อง “เกรียนสยาม“ ที่นับวันจะพรั่งพร้อมด้วยเหตุผลรองรับตัว
ประโยคคุ้นเคยน่าจะเป็น “ทุกคนต่างรักทีมด้วยกันทั้งนั้น” เพราะฉะนั้น การด่าทีมและนักเตะจึงล้วนไม่ผิด

บัดซบชัดๆ กับข้ออ้างที่อ้างมา ราวกับแสดงภูมิเหลือเกิน ว่า นี่คือเหตุผลที่สมเหตุสมผลอย่างยิ่ง
งั้นหากผมเกิดรักพ่อแม่คุณ .. ผมและคุณต้องกระทำเยี่ยงไร หาก ตรรกะ นี้ วางบนบรรทัดฐานเยี่ยงกัน

เช่นกันทุกตรรกะ ทั้งการด่าทีมว่า"กาก" การต่อว่านักเตะว่า"สากกะเบือ"..คุณว่ายอมรับได้ แบบนี้หรือเปล่า !!.
เพราะหากเพื่อนฝูงเอาพ่อแม่หรือญาติโกโหติกาของคุณ มาแสดงความรักดั่งเช่น

ไปบ้านมัน โครตเหง้ามันกากชมัด พ่อแม่ทำตัวราวสากกะเบือ” คุณรับไหวกับการแสดงความรักนี้จริงหรือ !!
หากคุณรู้สึกว่าโอเค นี่คือเรื่องรับได้ ผมคงหวังใจแค่ว่า พ่อแม่คุณคงมีความสุข !!

แถมล่าสุด ยังมีแนวคิดใหม่ๆ เกิดขึ้น ว่า หากพูดกันแต่เรื่องดีงามของสิ่งที่เรารัก มันจะหาหัวข้อคุยลำบาก
เหียกเอ๊ย !!! ช่างคิดได้ งั้นสังคมนี้เราคงต้องด่าพ่อล่อแม่กันอีกแยะ จะได้มีเรื่องคุยถึงคนที่เรารักมากขึ้นกระมัง

เมื่อหลายปีก่อน มีกลุ่มแนวอนุรักษ์นิยมออกมาเรียกร้องให้ทุกคนที่อยากเป็น เดอะ คอป ออกมาสร้างจิตสำนึกดีงาม
ข้อแรกเลยที่ทางกลุ่มออกข้อกำหนด คือการมุ่งที่จะแสดงจุดยืนความเป็น เดอะ คอป ที่เด่นชัด ด้วยแนวคิดที่ว่า

เรามีหน้าที่เป็นองครักษ์ของทีม เดอะ คอป มีหัวใจ, ทัศนคติ และ มอบจิตวิญญาณให้ สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล
ซึ่งไม่มีใครเป็นเจ้าของมัน แต่ทุกคนมีส่วนเป็นเจ้าของร่วมกัน ไม่มีใครมีอิทธิพลใดๆ กว่าผู้อื่น

นอกจากนั้นยังแถมให้อีกข้อที่ว่า

"สโมสรลิเวอร์พูลมีไว้เพื่อให้กองเชียร์เทิดทูน ไม่ได้มีเพื่อจุดประสงค์อื่นใด" ถ้านี่เป็นสโมสรของเรา ทีมของเรา
"เดอะ คอป คือกำแพงที่จะคอยป้องกันทีม เราต้องคอยหนุนหลังทีม ทั้งหนัก และ เบา พวกเราจะเข้มแข็งเสมอ"

จริงๆ ผมว่ามันง่ายนะ ยกเว้นพวกเบาปัญญา ที่จะแปล คำว่า องครักษ์ ใน หัวข้อแรก ไม่เข้าใจ
หรือ อยากแกล้งทำควาย แปลความหมายในประโยคสองได้ ไม่เหมือนอย่างที่กลุ่มที่รณรงค์พยายามจะสื่อ

ไม่ได้ว่าอะไรหรอกนะ ... แค่ อยากบอก ว่า ท้ายสุด หากเมิงสำเหนียกกันไม่ได้ ว่าพวกเมิงต้องดำรงตนแบบไหน
อย่าได้หนังหน้าหนา เอาคำ เดอะ คอป ไปใช้ให้พร่ำเพรื่อ หรือ อย่าเอาไปหาแดกกันดีกว่า

มันเสียของอย่างแรงส์ .... !!!

...........................................

คนผู้หนึ่งไม่อาจหนีตัวเองได้ ความผิดพลาดของตัวเอง ความเสียใจของตัวเอง ความรับผิดชอบของตัวเอง
ล้วนแต่หนีไม่ได้ เนื่องเพราะนั่นคล้ายเป็นเงาของตัวเอง ซึ่งติดตามไปทุกแห่งหน ไม่อาจหนีรอดเด็ดขาด”

จริงๆ แล้ว ในบรรณพิภพนี้ ผมเองน่าจะถือได้ว่า เป็นคนขีดเขี่ยตัวอักษรที่หาดีเด่อะไรไม่ !!
คงต้องขอบคุณบรรดาพ่อยกแม่ยกทั้งผอง ที่ได้ติดตามกันมา แม้วันที่เขียนไม่ได้ดีอย่างที่ท่านทั้งหลายต้องการ

ส่วนหนึ่งผมว่า คงมีหลายคนชอบตรงที่ ผมเขียนอย่างไร การกระทำด้านอื่นผมมักเดินด้วยสายเดิมๆ
หาได้เขียนบทความดูดี แต่พฤติกรรมนอกจากนั้นกลับตอแหล หรือ สวนทาง ราวกลับแปรเปลี่ยนเป็นคนละคน

ผมอาจไม่ใช่นักเขียนจากสำนักใหญ่ๆ ที่ทรงภูมิ หรือประกาศตัวออกสื่อมานาน ว่า ข้า คือ เดอะ คอป
แต่แสดงความเดียดฉันท์นักเตะหรือทีม อย่างสื่อส้นตรีนบางราย ที่ดูเหมือนเท่ห์ชิบหาย เวลากระทืบทีมรักให้โลกรับรู้

การชุบตัวด้วยบทความก็เยี่ยงเดียวกัน ต่อให้คุณเขียนงานได้เลิศเลอ แต่วันไหนที่คุณได้แสดงธาตุแท้
คุณ แม่มมม ... จะเหลือค่าอะไร !!

หากจำความกันไม่ได้ ลองย้อนเอา กับ ไอ้พวกเส็งเคร็ง ที่เคยด่าและไล่กองหลังยกแผงในฤดูที่แล้ว
หรือแม้แต่ไอ้พวกทำงาน “เรื่องเน่าเช้านี้”... เชื่อซิ... รับรอง ผมคงได้เขียนด่าพวกมันอีกหลายคราว !!!

...........................................

ก่อนจบบทความปลดแอกบทความนี้ คงขอพูดถึงทีมรักนิดหน่อย เอาแค่พอสังเขป
ไม่อาจคาดเดาใดๆ เลย จากการอุ่นเครื่องนัดแรก ว่า ท้ายสุด เรื่องราวที่กำลังมาเยือนในฤดูกาลใหม่จะจบแบบไหน

แต่เรื่องที่งงมากกลับกลายเป็นการที่กระทาชาย นายจอห์น เฮนรี่ มาหล่นความคิดว่า ให้ รอดเจอรส์ ตามสบาย
การไม่ได้ไปแชมเปี้ยนลีค พ.. หน้า หาใช่เรื่องคอขาดบาดตายไม่ !! มุมผมคงได้แค่สบถว่า ส้นตีนแล้วไง !!

ก็นะ ใคร ล่ะ ที่บอกว่า การไปแชมเปี้ยนลีค คือเรื่องที่เราต้องทำให้ได้ ..  
หากทำไม่ได้ ผู้จัดการอย่าง เดอะ คิง ต้องรับผิดชอบ

แต่พอเปลี่ยนคน กลับเจือกบอกอีกแบบ ว่า มันไม่สำคัญเท่าไหร่ ไม่ได้ก็หาเป็นไรไม่ …

อ้าว !! มันเหมือนมีคำถามเกิดขึ้นทันควันว่า แล้วเมิงจะรีบไล่เดอะ คิง ออกไปทำซากแม้ว ทำไม ..??

เพราะหากกลับไปดูผลทางสถิติ คุณเอง ที่ยึดติดกับ โมเดล Money Ball นักหนา 
จริงๆ แล้ว คุณเมิงทั้งหลาย น่าจะมองออกว่า ทุกอย่าง มันแทบจะดูดี

เหมือนนักวิพากษ์หลายคนเคยหล่นความเห็นไว้ว่า
ด้วยทรงบอล วิธีเล่นของทีมเราในกำมือ เดอะ คิง ทำได้อย่างถูกต้องในทุกด้านที่อยู่ในสนาม ยกเว้น สกอร์

เหมือนเดิม ครับ .. ผมไม่ได้มองว่า การทำเยี่ยงนี้ การไม่กดดันผู้จัดการใหม่ เป็นสิ่งที่ผิด
แต่ เว๊ยเฮ้ย !!อย่าได้ตอแหล หรือ กลับกลอก กันให้มาก..เพราะกรูตามเมิงไม่ทัน ว่า สรุปอยากได้อะไร !!

หรือแค่อ้างเอาให้ แม่มมม เหมือน จะดูดี !!

ด้วยจิตคารวะ
เซียวลี้ปวยตอ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น