วันเสาร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2554

มูรินโญ่...น่าปลื้มตรงไหน !!!

ต้องยอมรับว่าหลายๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนปฐพีนี้ บั่นทอนความรู้สึกส่วนตัวยิ่ง
เพราะล้วนแต่เป็นโศกนาฏกรรมที่ลดทอนอารมณ์และจิตใจในการสร้างงานไม่น้อย

ทั้งเหตุ แผ่นดินไหวขนาดมโหฬาร ตามด้วย สึนามิ อีกทั้งกรณี โรงไฟฟ้าปรมาณูเกิดไฟไหม้
ซึ่งไม่รู้ว่าเมื่อถึงท้ายที่สุดจะมีผู้คนต้องจากไปเท่าไหร่ ...

ไม่นับรวมกับกรณีชะตากรรมของเด็กน้อยวัยหกขวบต้องเผชิญสิ่งไม่คาดฝัน อย่าง น้องรูบี้
เด็กหญิงตัวเล็กๆ ที่ต้องทนทุกข์ทรมานกับโรคร้าย และ อาการข้างเคียง

ได้แต่เฝ้าภาวนาและอ้อนวอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โปรดช่วยดูแล และ ขอให้ทุกคนผ่านพ้นไปด้วยดี ...

..................................................

ไม่มีความรู้สึกเสียใจแม้แต่น้อย กับผลที่เกิดขึ้น 0-0 จากการพบเจอกับทีมแห่งโปรตุเกส
ก็แค่ผิดหวังนิดหน่อย กับ โชคชะตาที่เล่นตลกอีกครา เท่านั้น

หากจะเทียบกันโดยราคานักเตะทั้งในส่วนตัวจริงและตัวสำรอง การใช้จ่ายที่มีมูลค่ามหาศาล
ระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ใคร ฟ่ะ ที่ควรฟูมฟาย ...
ใครที่ควรอดสู และ ใครที่ควรยืดตัวน้อมรับชะตากรรม ?

อีกทั้งโดยภาพรวมของเกมส์ ก็ไม่เห็นมีอะไรตรงไหนที่สามารถออกปากตำหนิได้อย่างชัดเจน
ก็แค่ตื้อตันกับการวางแผนที่ดีของฝ่ายตรงข้าม บวกกับความมีวินัยยอดเยี่ยมของนักเตะ บราก้า

ซึ่งโดยรวมทั้งสองนัด ทีมจากโปรตุเกสแสดงฝีเท้าได้อย่างน่าทึ่ง
ดูดี มีชาติตระกูลกว่าทีมอันดับหนึ่งของบางลีค ตอนพบเจอเรา !!! หรือไม่จริง !!!

..................................................

ในความผิดหวังและเสียใจของหลายคน กลับมีความหวังเรืองรอง
มองกันด้วยสายตาเป็นธรรม และ เข้าใจถึงสภาพความเป็นจริง

และหากไม่กังวลกับการเข้ารอบตกรอบมากไปนัก
บางทีคุณอาจต้องอมยิ้มกับสิ่งเล็กๆ น้อยๆ และ อาจเพริดแพร้วกับนักเตะบางคนที่หลายคนประณาม
เอาแบบสองนัดพูดกันทีเดียว นี่แหล่ะ!!! ไหนๆ ก็นานแล้วที่ไม่ได้เขียน...

..................................................

เจย์ สเปียร์ริ่ง ผมชอบหมอนี่ ว่ะ ... ตั้งแต่นัดแรกที่เจอ บราก้า
ดูแล้วพาลคิดถึงอดีตเด็กหงส์อย่าง แดนนี่ เมอร์ฟี่ อาจเพราะรูปลักษณ์ที่มองเห็น
ผมเห็นแววฉลาด การจ่ายบอล์ลยอดเยี่ยม และ หัวใจแห่งลิเวอร์พัดเลี่ยน
ขณะที่ทรงบอล์ลส่วนตัวดูละม้ายคล้ายรุ่นพี่คนที่ว่ายิ่งนัก

ใครจะว่างัย ไม่รู้... !!! ขอโทษ ... จะเป็นไรไหม ถ้าผมจะขอยืนยัน
ว่าเด็กคนนี้ดีพอที่จะยืนอยู่ในพรีเมียร์ลีคในอนาคต ไม่ว่าจะทีมไหนก็ตามแต่
ถ้าไม่ละทิ้งความพยายาม และ หัวใจนักสู้ที่ปลูกฝังจากอคาเดมี่ของยอดทีมแห่งนี้

แดนนี่ วิลสัน กับ นัด 2 ผมเห็นเค้าลางแห่งวัยเยาว์ของ เดเนี่ยล แอคเกอร์
อาจไม่ใช่ตำแหน่งที่ถูกที่ควร ในการเป็นกองหลังด้านข้าง แต่หากขยับเข้ามาอยุ่ตรงกลาง
รวมทั้งเพิ่มทัศนคติและความนวลเนียน รวมถึงศาสตร์แห่งการรับมือให้มากขึ้นอีกนิด
จะเป็นไรไปถ้าจะเป็นอะไหล่ในปีหน้าอีกซักปี ก่อนพร้อมจะก้าวสู่ชุดใหญ่อย่างภาคภูมิ

อีกคนที่แอบยิ้ม คงหนีไม่พ้น มิดฟิลด์ร่างเล็ก
มีหลายชอท หลายจังหวะในนัดสอง ที่ ผมเห็น โจ โคล คนเดิมใกล้กลับมา
ที่มองอยู่อาจเป็นแค่ 60-70 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้น กับนักเตะที่หายไปนาน และเพิ่งลงเต็มๆ 2-3 เกมส์
ภาวนาเยี่ยงกันให้กลับมาเหมือนเก่า ขอปีหน้าแค่ปีเดียวที่พร้อมลงบู๊ได้เต็มสูบ แค่นี้ก็ชื่นหัวใจเพียงพอ

แอนดี้ คาร์โรลล์ กับ 90 นาทีเต็มแมตช์แรก หลังพักและรักษาตัวมานาน
ไม่มีอะไรน่าตำหนิ กับ การชนะลูกกลางอากาศครั้งแล้วครั้งเล่า
ขณะที่ทางภาคพื้น อาจมีจุดต้องปรับเปลี่ยนจังหวะ และ น้ำหนักบ้างเล็กน้อย ก็เท่านั้น
ผมว่าเราไม่ต้องคอยเนิ่นนานเหมือนที่เราเคยคอยถึง 19 เกมส์ ของ ปีเตอร์ เคร้าซ์
และแน่นอน ผมว่าเราไม่ต้องคอยถึง 6 นัด เหมือนใครบางคน ... เยี่ยงกัน

กับนักเตะส่วนใหญ่ของทีมในนัด 2 นี้ ด้วยทัศนคติ ด้วยความอดทน และ ด้วยหัวใจ
ผมชอบเลยเชียวล่ะ !!! ใครจะว่าอย่างไร เห่าหอนกันแบบไหน หาแพะว่าเป็นใคร ก็ว่าๆ กันไป

เพราะยังยืนยันด้วยความเป็นจริงมาเสมอ กับ ความฝืดเคืองของอะไหล่ชั้นดี
ขณะที่ตัวจริงบางตำแหน่งยังไม่ได้รับการเยียวยา โดยเฉพาะด้านซ้ายทั้งแถบ รวมถึงปีกธรรมชาติด้านขวา

ซึ่งหวังว่าเมื่อจบฤดูกาล ปัญหาเหล่านี้จะได้รับการจัดการอย่างดี โดยฝีมือและความพยายามของทีมงาน

..................................................

แน่นอน... เมื่อผลการแข่งขันออกมาเยี่ยงนี้…
กระแสเรียกร้อง มูปากแมว เริ่มต้นกระหึ่มอีกครา นำเสนอโดย เกรียนสยาม ผู้ไม่เคยมองความจริง

แปลกนะ ที่ผมไม่เคยชื่นชมทั้งโดยเรื่องในสนามและนอกสนามของชายผู้นี้
คนที่ใครๆ ต่างมองว่า นี่แหล่ะ ยอดกุนซือ !!!

แต่ผมกลับมองแค่ ความดาดๆ กับ การแสดง ความโง่ ผ่านปากและท่าทางของชายผู้นี้ เท่านั้น
เพราะไล่เรียงกลับไปถึงยุคก่อน ตอนเข้ามาคุม หอยเน่า ครั้งแรก ในปี 2004-2005

หากใครได้ศึกษาบ้าง อาจเห็นได้ว่าที่ มูรินโญ่ ได้แชมป์ปีแรก และ ปีสอง นั้น
นักเตะที่ลงสนามทั้งปีส่วนใหญ่ นับเป็นผลพวงของนักเตะที่ รานิเอรี่ เป็นคนเฟ้นหา เกือบทั้งนั้น
ขณะที่ปีที่สาม เป็นนักเตะที่ มูรินโญ่ ซื้อมาส่วนใหญ่ กลับชวดแชมป์

เช่นกัน ... การออกจากซุ้ม หอยเน่า สู่ อินเตอร์มิลาน ผมมองว่าเพราะ ความใจมด ของ มูรินโญ่
ที่ออกจะดูตื้อตัน ไร้จินตนาการ และ แสดงออกถึงความไร้ฝีมือ มากยิ่งขึ้น
เลยพาลตั้งเงื่อนไข เพราะอาการรู้ตัวที่ไม่สามารถพา หอยเน่า เข้าสู่วังวนแห่งแชมป์ ได้อีก
ขณะเดียวกันการเข้าสู่ อินเตอร์มิลาน ทีมที่มีอะไหล่ชั้นยอด กลับดูง่ายต่อการทำงานมากกว่า

เช่นเดิม หลังได้แชมป์ เพราะอะไหล่ชั้นยอด บวกตัวเลือกใหม่ไม่กี่ตัว
แต่เมื่อมองเห็นอนาคตว่ามีแต่ทรุดกับทรง มูรินโญ่ เผยอหน้าอีกครา สู่รั้ว เบอร์นาบิว
โดยหวังว่าเม็ดเงินและอะไหล่ชั้นเยี่ยมจะเป็นหนทางสร้างชื่อเสียงอีกครั้ง

แต่โทษที !!! ที่ครั้งนี้ไม่หมูอย่างที่คิด เพราะ บาร์เซโลน่า กลับเป็นของจริง ชนิดที่ใครก็มิอาจดูแคลน
ผล 5-0 เมื่อไม่นานมานี้ บวกกับตารางคะแนน ที่บ่งชี้ มันเป็นข้อสันนิษฐานไม่ยาก ว่า
มูรินโญ่ ต้องการเปลี่ยนงานอีกครั้ง เพื่อรักษาชื่อเสียงของตน มากกว่าเรื่องของสโมสร

ถามจริ๊ง ... หากปีนี้ไม่ได้ซักแชมป์ ในขณะที่ใช้จ่ายเงินมหาศาล เนี่ย...
ยังกล้าเรียกร้อง และ ถามหากันให้วุ่นวาย อีกไหม !!!

อีกทั้งเรื่องการสั่งสอน แทคติค ที่พยายามให้เหล่านักเตะคอยเอารัดเอาเปรียบคู่ต่อสู้ตลอดเวลา
ซึ่งนั่นไม่ใช่คาแรคเตอร์ของยอดทีมแห่งเมอร์ซี่ไซด์ทีมนี้ แน่นอน !!!

ยังไม่นับรวมอีกหลายเรื่อง ทั้งนักเตะชั้นยอดที่มาตายใต้การคุมบังเหียนของ คนใจมด
การเลือกซื้อนักเตะ ราคาแพงและไม่สามารถแจ้งเกิด รวมถึง ระบบเยาวชน ที่มิอาจเห็นอนาคต
สารพัดเรื่องแฉ... เอาเป็นว่า ใครปลื้ม... ปลื้มไป ... กรู ไม่ปลื้ม ว่ะ ...!!!

..................................................

ก่อนฟาดแข้ง กับ ซันเดอร์แลนด์ กับ 9 เกมส์ ที่เหลือในลีค
ผมยังยืนยันตัวตนเยี่ยงเดิม ว่าทุกก้าวย่างหลัง เดอะ คิง กลับมา สร้างความปิติในหัวใจ ไม่น้อย

จะได้ไปยุโรปหรือไม่ !!! เดอะ คิง จะต่อสัญญาไหม !!! ถ้าต่อจะได้ข้อเสนอเท่าไหร่ !!!
ทุกอย่างล้วนรอคอยคำตอบ !!!

20 ปี อาจทรมานหัวใจผู้คนมามากมาย แต่หาใช่โลกแตกดับไม่...
และไม่ใช่แค่เราคนเดียวที่เฝ้ารอเท่านั้น ... มีมากมายหลายล้านชีวิตเฝ้ารอด้วยใจระทึกเช่นกัน

วันเวลาแห่งความหอมหวานน่าจะอยู่ไม่ไกล...
ใครคอยไม่ไหว รอไม่ได้ รีบๆ ย้ายทีมเชียร์ไปซะ ... ขอร้อง !!! อย่ามากวนตรีนนนนนนน !!!


.................................................. 

ข้อความนี้เป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล มิได้เจตนาก้าวล่วงผู้ใด 
หากทำให้ผู้ใดขุ่นมัว ก็ไม่รับผิดชอบใดๆ นะเอย ..... (ฮา) 


*ข้อมูลเพิ่มเติมในมุมของผู้เขียน

ข้อ 1 ... กับ ปอร์โต้ ...ผมมองว่านั่นคือที่รวมสตาร์เลยนะครับ
แค่เป็นสตาร์ในอีกมุมโลกที่เราไม่คุ้นเคย... กับการได้แชมป์ลีค ถือว่าธรรมดา

แต่การได้แชมป์ยุโรป ก็ธรรมดา เหมือนบราก้าชนะเรา เนี่ยแหล่ะ
จับพลัดจับผลูได้แชมป์ จะแสดงว่าเก่งมากๆ เลยหรือเปล่า กับผู้จัดการ !!!

 

ข้อ 2 ... กับ เชลซี ถ้าผมจำไม่ผิด รานิเอรี่ คุมทีมอยุ่ 4 ปี ...
จัดทีม ซื้อตัว และได้จากอันดับ 6 มา 4 มา 3 มา 2 ... ก่อน มู คุม

เอาตามพัฒนาการ ถึง มู ไม่มา โอกาสเป็นแชมป์ปีที่ มู มา ไม่ไกลเลย
เพราะรากฐานและรูปแบบมันค่อนข้างมาทางบวกอยู่แล้ว  


2 ปีแรกที่ได้แชมป์ ก็เด็ก รานิเอรี่ ทั้งนั้น ที่เล่นต่อเนื่องทั้ง 2 ปี
พอ มู แสดงความสามารถในการซื้อตัวผู้เล่น  ปีที่ 3 คือ ปีที่ใช้ผู้เล่น มู ส่วนมาก ... กลับไม่ได้แชมป์ ...


ข้อ 3 ... การไป อินเตอร์มิลาน .. ถ้าดูจากขุมกำลัง เทียบปอนด์ต่อปอนด์
ผมว่า อินเตอร์ ดูดีกว่าชาวบ้าน บวกกับตัวที่สามารถเลือกเข้ามาได้ แต่ละคน มันดีกรีระดับอ๋อง ... นะ นั่น

ยอมรับอย่างว่า มู เป็นแมวมองที่ดี ในการเลือกทีม คุม ...  แต่ งานนี้ที่ เบอร์นาบิว เจอของแรง ...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น