วันพุธที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ช่วงชุลมุน ของ ลิเวอร์พูล


ตอนแรก ว่า จะเขียนอะไรๆ หลังการแต่งตั้งผู้จัดการใหม่ ซึ่งครั้งแรกนึกในใจว่า วันอังคารที่ผ่านมาน่าจะเสร็จสิ้น
แต่ทุกอย่างยังคงอึมครึม และมีแต่ความคาดเดาไม่รู้จบสิ้น กับว่าที่ผู้จัดการคนใหม่ของยอดทีมอย่าง ลิเวอร์พูล

เดอะ คอป ขนานแท้ที่ผ่านร้อนหนาวมานาน
หลายคนอาจตั้งข้อสงสัย ระคนกับความมึนงง กับหลายสิ่งที่อเมริกันริเริ่ม
ทั้งโครงสร้าง ทั้งผู้คนที่สับเปลี่ยนในตำแหน่งต่างๆ รวมทั้งข่าวลือโน่นนี่มากมาย
จนมีคำถาม “เรากำลังทำอะไรกันอยู่”

แค่แคนดิเดตผู้จัดการแบบ Roberto Martinez และ Brendan Rodgers
หลายคนก็จินตนาการไปได้กว้างไกลสุดกู่
รวมไปถึงการเรียกนัดสัมภาษณ์ ราวกับว่า FSG กำลังมองหาคนร่วมงานในตำแหน่ง  Messenger ก็ปาน

ส่วนตัวแล้วมันมีเหตุและผลมากมายที่ขัดแย้งในตัว
แต่ไม่ว่าอย่างไรคงต้องยอมรับและเชื่อกันไปก่อนเล็กๆ ว่า
“นี่จะเป็นก้าวสำคัญก้าวหนึ่งของสโมสรที่จะเป็นการเปลี่ยนแปลง
ไปสู่อีกมาตรฐานที่ดี และ ยั่งยืน ในอนาคต”

ไม่มีใครรู้ ว่า มันจะดีงาม ไม่มีใครรู้ ว่า มันจะได้ผล รวมถึงยังไม่มีใครรู้ว่า
จริงแท้แล้ว FSG วาดหวังอะไร กับทีมของเรา
แต่เครียดไป ณ วันนี้ ก็ไม่เห็นจะมีอะไรดีขึ้นมา
นอกจากจะมีแต่ความทุกข์กังวลที่คอยกัดกินใจ เปล่าๆ

เปิดใจให้กว้าง น้อมรับความเปลี่ยนแปลง และเฝ้ามองอย่างสงบ
เพราะทุกอย่างมันนอกเหนือการบังคับของพวกเรา

เมื่อถึงเวลา หากการเปลี่ยนแปลงมันไม่ดีจริง ถึงวันนั้นค่อยป่าวประกาศ
และ แสดงพลังให้ FSG ทราบ คงยังไม่สายเกิน

..........................................................................................................

ด้านบนที่เขียน ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ขณะที่ด้านล่างที่คุณจะได้อ่าน มันก็ไม่ได้ล้อเล่น เช่นกัน !!

การต้องยอมรับอเมริกันในการจัดการเป็นเรื่องที่เราสมควรปฎิบัติ
แต่เรื่องราวมากมายเรายังมีสิทธิ์เสมอในการแสดงความคิดเห็น

ผมไม่เชื่อแน่นอน ว่า เดอะ คอป ที่ดีจะต้องเออออห่อหมก กับทุกเรื่องที่อเมริกันชนกระทำ
ขณะเดียวกัน ผู้คนมากมายที่วิพากษ์อเมริกัน กดดัน และ ผรุสวาทใส่ อเมริกัน
ใครกล้าบอก ว่า เค้าคือ เดอะ คอป ที่ไม่ดี

เราเคยมีตัวอย่างมาแล้ว กับสองปลิงอเมริกันรุ่นก่อน
George Gillett  และ Tom Hicks ที่สร้างรอยแผลไว้ให้สโมสร
การเรียนรู้ การเคลือบแคลงใจ ไว้บ้าง คงไม่ถึงกับทำให้ใครๆ ต้องออกมาดีดดิ้น ในเมื่อเรายังไม่รู้จุดจบ ?

เพราะเมื่อ ปี 2007 เราเองก็เคยเป็นปลื้มมาก่อน กับฝันที่จะเห็นทีมก้าวไกล รวมถึงใฝ่ฝันจะเห็นสโมสรเติบโต
ทั้งเรื่องสนามใหม่ที่จะช่วยเราได้ในหลายเรื่อง
หรือ เม็ดเงิน ที่เราคิดไปเอง ว่า มันจะหลั่งไหลเข้าสู่ทีม จนเทียบเคียงหลายสโมสร

แต่สุดท้ายจากสิ่งที่เราฝัน
มันกลับกลายเป็นความยากลำบากของผู้จัดการอย่าง ราฟา รวมทั้งยังเพิ่มหนี้สินมากมาย
ส่วนตัวผมเอง เลยไม่รู้สึกแปลกอะไรมากนัก
กับการต้องฟัดกับ อเมริกัน เสียหน่อย ในเมื่อสิ่งที่พวกเค้ากระทำยังไม่ชัดเจน

เพราะโดยพื้นฐานของอเมริกันทั้งสองรุ่น หาได้เกิดมาจากความรักในสโมสรอย่างแท้จริงไม่ !!

หากแต่มันเกิดมาจากกระดาษรายงาน ว่า นี่คือ
สโมสรฟุตบอลที่เป็นแบรนด์ติดอันดับต้นๆ ของโลก และ มันพร้อมจะทำเงิน
มีไม่มากนักหรอกบนโลกใบนี้ ที่จะมีทีมไหน สามารถติดอันดับโลกสโมสรที่มีมูลค่าสูงมาหลายปี
ทั้งที่ไม่ได้เป็นแชมป์ลีคมาแสนนาน

แล้วคุณจะเชื่อใจกับคนเหล่านี้ได้อย่างไร ว่าพวกเค้าจะมีแต่ความหวังดี บริสุทธิ์ โดยไร้ข้อกังขา ?

จริงอยู่ ที่เค้าเหล่านี้อาจเข้ามาปลดหนี้สินก้อนโตให้กับเรา
พยายามหยิบยื่นเม็ดเงิน ปรับเปลี่ยนระบบ และ โครงสร้างมากมาย
แต่สิ่งที่เค้าทำ นั่นคือ การช่วยเหลืออย่างจริงใจ
หรือ เพราะมองเห็นหนทางเอาคืนอยู่แล้ว ทุกอย่างยังล้วนรอคอยคำตอบ

เรื่องเหล่านี้ล้วนยังต้องรอคอยเวลา และผมเองก็เชื่อว่า
หาก FSG แสดงให้เห็นถึงความจริงใจ และความปรารถนาดีอย่างแท้จริง
พวกเค้าเหล่านั้น จะครอบครองหัวใจของ เดอะ คอป ได้ทุกดวง
เหมือนที่เราเคยให้ความรักกับ ตระกูล มัวร์ เฉกกัน

..........................................................................................................

กลับมาที่เรื่องราวของอาการฝุ่นตลบจากการเสาะหาผู้จัดการกันดีกว่า
ว่าใครสมควรได้รับเครดิตจากพวกเรา
คำตอบที่ผุดพราย หาได้ยากไปไม่ เพราะคำตอบผมมีแค่หนึ่งเดียว
คือ ใครก็ได้ที่เข้ามาสมควรได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น

เพราะอย่าลืม ว่า โครงสร้างที่เราๆ ท่านๆ รับรู้มา
โดยตำแหน่งนี้ ก็เป็นเพียงแค่ หนังหน้าไฟ เท่านั้น หาได้สำคัญมากนัก
เป็นแค่คนจัดการทรัพยากรผู้เล่นที่เรามี นำไปเข้าสู่แผนเพื่อเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
โดยไม่สามารถตัดสินใจในการซื้อขายผู้เล่น

ขณะเดียวกันยังอาจต้องเป็นคนที่สามารถเปลี่ยนแผนได้ตลอด
หากทรัพยากรที่ต้องจัดการ ไม่ได้มีเพื่อรองรับความคิดในหัว
ซึ่งโดยหลักการแบบนี้ ส่วนตัวเอง ผมยัง งง อยู่ไม่น้อยทีเดียว ว่า
มันจะทำงานกันอย่างไร ถึงจะมีประสิทธิภาพสูงสุด

ที่ งง คือ ปกติหากจะทำแบบนี้ ระบบมันจะต้องถูกออกแบบมาก่อน
แพทเทิร์นจะต้องชัดเจน และ รูปแบบต้องจับต้องได้
แต่หากเหลียวดูโครงสร้าง ณ ตอนนี้ มันเลยชวนสงสัยยิ่ง
ว่า ใคร คือ คนคนนั้น ที่วางระบบ และ แพทเทิร์นไว้เรียบร้อยแล้ว

ขณะเดียวกัน ผู้ควบคุมระบบ จะต้องเป็นผู้เฟ้นหานักเตะ
และผลักดันให้ทุกอย่างไปในทิศทางที่ตัวเองตั้งไว้ .. ใคร ?

หรือผมเองกำลังเข้าใจอะไรผิด เกี่ยวกับทิศทางนี้ ?

มันเลยออกจะแปลกประหลาดมากมายในสายตายิ่ง
ถ้าหากยังไม่มีผู้ควบคุมระบบที่ชัดเจน แต่จัดการหาผู้จัดการคนใหม่ก่อน

รู้ได้ไง ว่า ผู้จัดการคนนี้จะสามารถสนองความต้องการของระบบได้อย่างชัดเจน และ ทรงประสิทธิภาพ
รู้ได้ไง ว่า คนออกแบบระบบจะปลื้มกับคนจัดการ ซึ่งตรงนี้ น่าสนใจ ว่า
ใครเอ่ย ? คือ คนคนนั้น คนที่จะควบคุมทุกอย่าง ?

อเมริกัน ถือไพ่ อะไร ไว้ในมือ ถึงมั่นใจเหลือเกิน ว่า
มันจะเกิดผลลัพท์ทางบวกอย่างที่พวกเค้าต้องการ ยังคงต้องคอยติดตาม

..........................................................................................................

บนโลกไซเบอร์ ที่นับวันข่าวสารจากสื่อต่างๆ มากมายจะไหลเวียนอย่างรวดเร็ว
บางเรื่องลุกลามเหมือนไฟลามทุ่ง
เช่นกัน การเลือกหาผู้จัดการคนใหม่ของ ลิเวอร์พูล ก็ไม่ได้รับการยกเว้น
แถมยังเป็น ทอร์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ เกลื่อนบอร์ด

มีการถกเถียงมากมายกับความเหมาะสม เหมาะควร กับใครก็ตามที่จะก้าวเข้ามาในตำแหน่งที่บางคนคาดหวัง
รายชื่อผู้จัดการชั้นยอดถูกโยงใย พัวพัน กับเรา จนแทบไม่เหลือผู้จัดการชั้นดีคนไหนอีกแล้วบนโลก

หลายคนเริ่มสบถ ถากถาง และ ด่าทอ กับหลายรายชื่อที่ตัวเองไม่ถูกใจ
หลายคนแอบสนับสนุนอีกหลายรายที่ตัวเองชื่นชอบ
ผมยังยืนยัน ว่า เราทุกคนบนโลกไซเบอร์ มีสิทธิ์ วิพากษ์ วิจารณ์ กับทุกคน ทั้งที่ตัวเองเชียร์ หรือที่ตัวเองชัง

การแสดงความคิดเห็น การแสดงออกว่า รัก เกลียด หาใช่เรื่องเลวร้าย ไม่
เพราะมันเป็นสัจธรรมของชีวิตและเป็นเสรีภาพชนิดหนึ่ง
แต่จริงหรือที่มันจะต้องถึงขั้นดูถูก เหยียดหยาม และ ปรามาส ว่า
เค้าจะพาเราแย่ หรือ ทีมเราจะต่ำต้อย ในเมื่อผลยังไม่ปรากฏ !!

เห็นฟันธงกันวุ่นวาย ว่า คนนั้นมาจะหนีตกชั้น คนนี้มาจะไร้อนาคต

ไอ้ส้งติง ! เก่งกัน ชิกหาย !! ไอ้พวกฟันธง เนี่ย เห็นพลาดกันมาหลายครั้งแล้ว
ไม่รู้หนังหน้าทำด้วยอะไร ... ถึงไม่สำเหนียกตัวเอง ซะที !!

ด้วยจิตคารวะ
เซียวลี้ปวยตอ

* หมายเหตุ หากถ้อยคำไม่สุภาพ ผมคงช่วยอะไรไม่ค่อยได้ เพราะนี่ถือเป็นงานที่ค่อนข้างสุภาพที่สุดในชีวิตงานหนึ่ง หากใครไม่สบอารมณ์คงได้แต่ต้องขออภัย และ ช่วยผ่านๆ มันไป อย่าใส่ใจมากนัก แต่หากไม่ชอบ แล้วยังใส่ใจ อันนี้ คงช่วยไม่ได้ นะเอย

ติดตามงาน ของ เซียวลี้ปวยตอ ได้ ที่ http://www.lovelfc.com/

วันเสาร์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

LoveLFC ฉบับ ปฐมฤกษ์

อีกครั้งกับงานสบายๆ สไตล์ “เซียวลี้ปวยตอ”
หนังสือพิมพ์ของชาวหงส์แดง ที่หัวใจมีเพียงหนึ่ง
วางแผงทุกครั้งที่อารมณ์ถึง เพราะฉนั้นอย่าได้คิด ว่า มันจะมาเมื่อไหร่ !!!
หวังว่า นี่จะเป็นอีกหนึ่งงานที่สร้างรอยยิ้มให้เปื้อนใบหน้าทุกท่านอีกคราว

ด้วยจิตคารวะ
เซียวลี้ปวยตอ




ติดตามงาน ของ เซียวลี้ปวยตอ ได้ ที่นี่ ไว้พบกัน ..