วันอังคารที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

"พระราชา" และ "โสเภณี"

ต่างคน ต่างมุมมอง ต่างวิเคราะห์ ต่างเฝ้าดู 

Put The Right Man In The Right Job !!!
คือ ประโยคที่ผมวูบวาบและหวั่นไหวทันที หลังเกมส์ ชนช่างปั้นหม้อ
5-3-2 หรือ 5-3-1-1 วิงแบ็ค (ใครจะว่า 3-3-2-1-1 หรือแผนเหวไหน ก็ว่าไป แต่ผมมองอย่างนี้ !!)
ช่างไม่คุ้นหู และ ไม่คุ้นเคยเสียจริง กับ ลิเวอร์พูล
แม้แต่ “เดอะ คิง” เอง ถ้ามีตัวเลือก ผมว่า 4-4-2 น่า จะเป็นทางเลือกแรกๆ ของตำนาน ผู้นี้
 

จากนัดแรกถึงนัดชน ฟูแล่ม น่าจะตอบได้ชัดเจน ว่า 4-4-2 คือระบบในฝัน ของ “เดอะ คิง”
แล้ว ไหงงั้น จาก 4-4-2 กลับกลายเป็น 5-3-2 หรือ 5-3-1-1 อันแสนฮือฮา
และสร้างรอยแผลขนาดใหญ่ ให้กับทีมพันล้านได้

........................................................

หากเป็นสุภาพสตรี การแต่งงานเพื่อเงิน และ เกียรติยศ ชื่อเสียง
และหันหลังให้กับชายที่รัก มันต่างอะไรกับ “โสเภณี”
(ต้องขอโทษ อย่างแร๊งค์ ถ้าใครจะเคือง ขอน้อมรับทุกกรณี !!!)

........................................................

เปรียบ “ตอร์เรส” คือหญิงสาวบอบบาง และ “เดอะ คอป” คือ ชายหนุ่มผู้ซื่อสัตย์
“ตอร์เรส” กับ ประโยคข้างต้น ต่างกันตรงไหน ...
 

ผมไม่ค่อยรู้สึกเท่าไหร่ กับการย้าย เพราะผมพอเข้าใจ
แต่เพราะเงื่อนเวลา นี่เอง ก่อนตลาดปิด 48 ชม. ที่ทำให้ผมขุ่นมัวพอสมควร
และ นี่คือจุดเริ่มต้นของ “แผนพิฆาตหมา” บทเพลงไม้เท้าตีสุนัขที่สะท้านสะเทือนยุทธจักรลูกหนัง

........................................................

หลังยอดศูนย์หน้าประกาศหันหลังให้พลพรรค "หงส์แดง"
จริงอยู่ เราได้ยอดฝีมือมาสอง แต่หนึ่งยังเจ็บไม่หาย อีกหนึ่งยังไม่ได้ซ้อม เอางัยล่ะ ทีนี้ !!!
 

การรู้จักใช้คนถูกที่ ถูกตำแหน่ง เริ่มจากตรงนี้...
ไม่ต้องคิด ในเมื่อเหลือศูนย์หน้าตัวเป้าตัวเดียว ใส่ไปเลย 1 ที่ “เดิร์ท เค้าท์”
ที่เหลือ จะให้ขยำแบบไหน ผสมกันอย่างไร มันก็ติดปัญหาอยู่ดี
เพราะ เราไม่มี ปีก อาชีพ เอาแบบพวกไปวัดไปวาได้ ก็ สามวันดีสี่วันไข้
 

ก่อนตลาดปิด ข่าวเรื่อง ปีก จึงโจษจันมันส์ปากยิ่งนัก
ประกอบกับ ความแหล่ม และ ความลงตัวของ 2 แบคด้านข้าง ที่เติมเกมส์ได้สะเด่ายิ่ง
บทบาท วิงแบ๊ค จึงเริ่มชัดเจน และแทบไร้ที่ติเสียนี่กระไร...
 

พอประกอบกับ 3 เซนเตอร์ ยิ่งไม่ต้องพูดกัน เพราะ วิงแบ๊ค ไม่ต้องกังวลมากนักกับเกมส์รับ
กลับมาให้เร็ว แต่ถ้าไม่ทัน เซนเตอร์ยังช่วยประคอง คอยประคบประหงมได้ 


แคลลี่ และ จอห์นสัน 2 คนนี้แหล่ะ คือ กุญแจสำคัญดอกใหญ่ ใน 13 แมตซ์สุดท้ายอย่างแท้จริง
กองกลาง ไม่ต้องพูดถึง มี เจอร์ราร์ด หรือไม่มี มี ลูคัส หรือไม่มี เราผ่านมาแล้ว
หรือถ้าโชคชะตาไม่ทำร้ายเรานัก อีก 2 คนที่เป็นหลัก และไม่ควรเป็นอะไรไป ก็ คือ
“ไมราเลส” กับ “เรน่า” หนึ่งผลิตภัณฑ์จาก “รอย ฮัดจ์สัน” และ อีกหนึ่งจาก “เบนิเตซ”

........................................................

หลังรายชื่อออกราว 4 ทุ่ม วันอาทิตย์
ผมสบถในใจ “อิ๊บอ๋าย แว๊ววว” พี่ เค้าท์ ผมคือศูนย์หน้าตัวเป้า
พี่เค้าท์ ผมออกจะทื่อๆ มิได้พลิ้วไหวดังสายน้ำ ซักหน่อย
 

ถ้าทำลายเกมส์คู่ต่อสู้ กับ รังควาญ ล่ะก็ นี่แหล่ะ ใช่เลย
แต่จะให้ทะลุทะลวงผ่านเซนเตอร์ระดับอ๋องอย่าง เทอรี่ และ ยอดฝีมือรุ่นเยาว์ อย่าง อิวานโนวิช ผมยังมองไม่เห็นทาง
 

ในขณะพลพรรค “หอย” ส่งหมาป่าล่าตาข่ายลงพร้อมกันทั้งฝูง !!! งานชุกแน่ เซนเตอร์ ข้าพเจ้า
แต่การณ์กลับตรงกันข้าม หากเปรียบ 11 ตัวจริง + 1 พลังแห่ง ”เดอะ คอป”
นี่คือ 12 เคล็ดลับใน 36 ท่วงท่าของ เพลงไม้เท้าตีสุนัข ชัดๆ
 

เป็นการกระทำที่ตีแสกหน้าบางผู้คน ยิ่งกว่าการออกปาก ว่า “ผายลม มารดาท่าน” เสียอีก
“งาช้างไม่งอกเงยในปากสุนัข” ฉันใด หลังโดนย่ำยี ว่าเราเป็นทีมเล็ก เป็นทีมไม่มีอนาคต
ทุกอย่างได้บทสรุป และ อุดปากผู้คนเหล่านั้น ด้วย สกอร์
ท่ามกลางสายตา 41,829 คู่ ณ แสตมป์ฟอร์ด บริดจ์ ไปเรียบร้อย
 

ทว่า
หลังเกมส์ กระทุ้ง “หอย” สิ่งที่รบกวนจิตใจกลับกลายเป็นเรื่องของ อายุ และ พละกำลัง
ชายหนุ่มที่เป็นทุกอย่างของ ลิเวอร์พัดเลี่ยน อย่าง เจอร์ราร์ด ออกอาการอ่อนล้า อย่างแรง
ขอให้ผมคิดไปเอง เถอะ...

........................................................

มิอาจคาดเดาถึงแผนการเล่น จากจุดนี้ไปถึงตอนสิ้นสุดฤดูกาล
แต่เชื่อโดยพลันเล็กๆ ว่า แผนนี้น่าจะเป็นแผนหลักที่ “ลิเวอร์พูล” จะใช้จนถึงสิ้นฤดู
เพราะอย่างน้อย “คลีนชีต” คือ หนึ่งคะแนนเสมอ
หรือไม่ .. เมื่อ 4-4-2 ของ ”เดอะ คิง” เป็นรูปเป็นทรงขึ้น เราน่าจะได้เห็นโดยเร็ววัน

“เครื่องจักรสีแดง” อยู่ไม่ไกล และไม่น่าห่วง
เพราะทรงบอล์ลเราเริ่มมีจิตวิญญาณแห่งลิเวอร์พูลมากขึ้นทุกขณะ
ใครจะรู้ว่าเมื่อถึงสิ้นฤดูกาล เราอาจต้องสำนึก และ ขอบคุณ “ตอร์เรส” เป็นกรณีพิเศษ ด้วยซ้ำ
 

เพราะ “ตอร์เรส” คือ อาวุธชั้นเยี่ยมของเราที่ทำให้ “หอย” ต้องกลืนน้ำลาย
เปลี่ยนระบบ เปลี่ยนคน เปลี่ยนแผน เปลี่ยนยุทธวิธี และ หยุดรอ เรา
กว่าระบบจะเข้าที่ กว่าทรงบอล์ลจะกลับมา กว่าจะสำนึก ตอนนั้นเราอาจแซงไปแล้ว

จากโซนตกชั้นยังมารดต้นคอได้ กับ อีแค่หกแต้ม ... อะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้ ด้วยมือ “เดอะ คิง”


ตัวหนังสือเหล่านี้ ... เป็นมุมมองส่วนตัวล้วนๆ ตั้งใจจะละเลงตั้งแต่สิ้นเสียงนกหวีด 

แต่พอดีต้องไปทำธุระที่เมืองกรุง ... เลยยกยอดมา ณ วันนี้ 
หากทำให้ผู้ใดต้องขุ่นข้องหมองใจ ขออภัยมา ณ ที่นี้ .... ด้วยจิตคารวะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น