วันเสาร์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2554

กรณีศึกษา...ราฟา เบนิเตซ

อักขระต่อไปนี้ หากมีส่วนแห่งความดีเกิดขึ้นบ้าง
ขอส่วนความดีทั้งมวลเหล่านั้น อุทิศให้แก่ผู้ที่จากไปทั้ง กรณีฮิลล์โบโร่ และ เฮย์เซล์ล

........................................

เคยสงสัยกันบ้างไหม !!! เหตุใดชายสเปนผู้เอกอุในโลกลูกหนังคนหนึ่ง
อย่าง ราฟา เบนิเตซ ถึงได้มอบกายถวายหัวใจ และ แสดงออกถึงการเป็น สเก๊าเซอร์ อย่างสุดลิ่มทิ่มประตู

ชายผู้มีค่อนชีวิต อยู่ในวังวนแห่งเกมส์ลูกหนังของสเปนลีค ใยถึงผูกพันกับสโมสรแห่งนี้เหลือเกิน
ทั้งๆ ที่เข้ามาอยู่กับสโมสรเพียง 5 ฤดุกาล...

แต่การแสดงออก…
กลับดูดีกว่าเหลือบไรที่บอกรักสโมสรมาเป็นสิบๆ ปี แบบที่ เกรียนสยาม ชอบพล่ามสร้างภาพ

อย่าได้ถามผม !!! เพราะผมคงหาคำตอบที่แท้จริงให้ท่านๆ ไม่ได้
แต่... ผมเชื่อว่าผมอาจคาดเดาไม่ผิดเกินไปนัก

มีคำพูดของ บิล แชงค์ลี่ย์ ปรมาจารย์แห่งสถาบัน ลิเวอร์พูล เคยกล่าว ว่า

" Some people believe football is a matter of life and death,
I am very disappointed with that attitude. I can assure you it is much, much more important than that."

“ผู้คนบางคนเชื่อว่า ฟุตบอลเป็นเรื่องของชีวิตและความตาย
ผมรู้สึกผิดหวังกับทัศนคตินั้นเหลือเกิน ผมบอกคุณได้เลยว่า มันสำคัญกว่านั้นโครตๆ”

อะไร คือ สำคัญกว่านั้น !!! อะไร คือ ยิ่งกว่าชีวิต และ ความตาย !!!

ผมว่า เอลบอส ราฟา เบนิเตซ ได้เข้าถึงแห่งสัจธรรมนี้ โดยเฉพาะกับเรื่องราวของยอดทีมเช่นเรา

ประวัติศาสตร์ และ เรื่องราวของทีม มันมีอะไรๆ ให้เราได้ศึกษา มีข้อคิด และเกิดความผูกพันได้ไม่ยาก
หากผู้ถวายกายพลีใจเป็นสาวกหงส์ทั้งมวล อยากร่วมซึมซับ ก็มีแบบแปลไทยให้ค้นคว้าไม่น้อย

การรับรู้ในแง่มุมลึกซึ้ง ทั้งเรื่องราวน่าเศร้า หรือ เรื่องน่ายินดีสุดขั้ว แต่ละบทต่างมีนิยามต่างกัน

สืบค้นที่มาที่ไป รวมถึงความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นกับผู้สูญเสียในบางกรณี
บางทีคุณอาจจะมีอารมณ์ร่วมกับผม ยามผมออกปากด่าสื่อไร้จริยธรรมบางตัว

เพราะหากคิดจะเชียร์เพียงเพื่อการเพรียกหาถ้วยแชมป์มาประดับบารมี ผมว่าออกจะไร้สาระไปหน่อย
อีกทั้งยังแสดงออกถึงความคิดอันตื้นเขิน ที่ไร้ความผูกพันทางจิตใจอย่างน่าตบกบาล

เรามีดีกว่านั้น ... เชื่อซิ !!!

........................................

"I was the best manager in Britain because I was never devious or cheated anyone.
I'd break my wife's legs if I played against her, but I'd never cheat her." : Bill Shankly

“ผมคือผู้จัดการที่ดีที่สุดในอังกฤษ เพราะผมไม่เคยคิดคดหรือจ้องโกงผู้ใด
ผมจะหักขาภรรยา หากผมต้องลงแข่งกับเธอ แต่ผมจะไม่โกงเธอ” : บิล แชงค์ลี่ย์

แค่ประโยคนี้ ไอ้ผู้จัดการบางคนที่ว่าเก่งนักเก่งหนา มันยังเสนอหน้าออกมาเถียงไม่ได้เล๊ยยยยย

ถ้าทีมตัวเองได้เปรียบ ได้ประโยชน์ ล่ะ ก้อ เงี๊ยบบบ เงียบ แต่ถ้าตัวเองเสียประโยชน์เมื่อไหร่
คิดเป็นแค่... ต้องโทษกรรมการ โทษนั่น โทษนี่ ... ยกเว้นเรื่องเดียว คือ แม่มมม ไม่โทษตัวเอง !!!

ถ้าลูกทีมแม่มมม โดนทำฟาวล์ แม่มมม โวยยังกับลูกทีม แม่มมมม ตาย
แต่เวลาลูกทีมตัวเองทำคนอื่นเดี้ยง 6 เดือนของจริง แม่มม เสือกเงียบดั่งตรีนนนน อุดปาก

ไอ้ส้นตรีนนนนนนนนนนนน !!! เอ๊ยยยยยยยยยยยยยย

........................................

มีหลายคน ที่เป็นเด็กรุ่นใหม่ หลายคนยังไม่เคยได้รับรู้อย่างลึกซึ้ง

บางคนเพิ่งแอบหลงรัก เมื่อ ถ้วยเอฟ เอ ล่าสุด หรือ บางคนเริ่มต้นที่ อิสตันบูล
ขณะที่บางคนอาจไปไกลหน่อย คือ เมื่อตอนได้ 3 ถ้วย สมัย อุลลิเย่ต์

ลองค้นคว้าซักนิด ลองศึกษาเพิ่มซักหน่อย กับความเป็นไปเป็นมาของทีม
ลองหาประวัติผู้คนเก่าๆ ทั้งฐานะนักเตะ หรือ ผู้จัดการ เอามาอ่าน เอามาศึกษา

ลองหาบางประโยคของผู้คนที่เกี่ยวข้อง บางคำอาจกินใจขนาดน้ำตาพาลไหลไม่รู้ตัว และ
บางทีการได้แชมป์พรีเมียร์อาจเป็นเรื่องรองๆ ไปเลยทีเดียว

เพราะ คำว่า ลิเวอร์พูล มันให้อะไรๆ กับเรามากกว่าที่คุณจะสามารถคิดออกตอนนี้
ลองศึกษาแบบชาย 5 ฤดูกาลค้นคว้า แล้วคุณจะเข้าใจ ว่า ทำไม เบนิเตซ ถึงรัก เรา !!!

และที่สุดคุณจะบอกตัวเองได้ ว่า “ทำไมต้องเป็นลิเวอร์พูลทีมเดียวเท่านั้นที่คุณควรรัก”

........................................

ท้ายสุดนี้ หวังว่าจะไม่เป็นการรบกวน สำหรับผู้คนที่เข้าใจ และ ศึกษาเรื่องราวต่างๆ แล้ว
ขณะเดียวกัน ก็หวังใจว่า ผู้คนรุ่นใหม่ๆ จะเกิดแรงบันดาลใจ ในการค้นคว้า หาเรื่องราวต่างๆ มาศึกษา

ด้วยจิตคารวะ
มีดสั้นงมงายรัก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น