วันอาทิตย์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

หลังเกมส์วีแกน สู่เกรียนสยาม

“ขอเพียงคนยังมีชีวิตอยู่ ก็สมควรยิ้มออก ขอเพียงยังสามารถยิ้มออก ก็สมควรยิ้มให้มากไว้”

......................................................................

โชคดีที่เป็นวีแกน...
ผมนึกในใจหลังจบครึ่งแรก แม้สกอร์จะบ่งบอกว่าเรานำอยู่ 1-0
ทรงบอล์ล น้ำหนัก และ ทิศทาง ดูไม่ลื่นไหล
ประกอบกับสภาพร่างกายของเหล่าขุนพลที่อ่อนล้าจากการไปรับใช้ชาติ
ตัวหลักหลายคนเจ็บ และ ไม่สมบูรณ์เท่าที่ควร
จินตนาการ และ โอกาสสร้างสรรค์ ดูน้อยลงตามศักยภาพของนักเตะ
ต้องยอมรับว่าตัวตายตัวแทนในแต่ละตำแหน่งดูฝืดเคืองไปหน่อย
การกลับมาใช้ระบบ 4-4-2 อีกครั้ง ดูไม่เป็นอย่างที่คิด...
ขณะที่เกมส์ริมเส้นไร้ประสิทธิภาพอย่างสิ้นเชิงในช่วงครึ่งทางของเกมส์

......................................................................

13 นาทีครึ่ง นับจากเสียงเพลงของ The Beattle จบลง และเสียงนกหวีดกังวาน
เราแทบโงหัวไม่ขึ้น แต่หลังจากนั้น อะไรอะไรถึงเริ่มเข้าที่เข้าทาง
10 นาที หลังจับทางถูก เครื่องจักรเล็กๆ ก็ได้เวลาทำการ
ออเลริโอ ล็อคหลบกองหลังวีแกนแบบเสียแมว ก่อนเปิดเข้ากลาง
หลังแฉลบหนังหัว จากการเคลียร์ โดยนักสู้ของ วีแกน
เป็น เมเรเลส อีกแล้ว ที่ ถูกที่ถูกทางถูกตำแหน่งถูกน้ำหนัก โครม !!! 1-0
และ โชคชะตา ก็เริ่มทำงาน และเล่นตลกกับพวกเราอีกครา
3 นาที หลังจากประตู 1-0 ซัวร์เรส โชว์เชิงปั่นลูกบอล์ลส่งสู่เสาไกล
โอ้ว !!! แม่เจ้า แม่นราวจับวาง โครมเบ้อเร่อ เช่นกัน เสา....
แม่มม เอ๊ยยยยย !!! ผมสบถในใจ
นาที ที่ 29 Gohouri เสียเหลี่ยมให้กับ ซัวร์เรส อีกคำรบ คราวนี้โดนถึงใบเหลือง
ในทางกลับกัน ฝั่งของ วีแกน ก็วูบวาบเป็นระยะ
แต่เป็นการวูบวาบแบบมีเสียวหลายต่อหลายครั้ง จนผมแอบหวั่นใจ โดนแน่ ตรู !!!
เพราะดูเหมือนหลวมๆ ยังงัย ชอบกล วันนี้
แม้แต่ ลูคัส อดีตลูกแพะของเหล่าเกรียนสยามเองก็ตามที นับว่าโดนจำนวนเกมส์เคี่ยวกรำ ยิ่งนัก
หากเป็นสมัยก่อน 35 นาที โดนฉกบอล์ลไป 2 ที เนี่ย ตอนนี้คงมันส์ปากหลายคนไปแล้ว
ถ้าไม่นำ 2-0 ทุกอย่างมิอาจวางใจ จริงๆ

......................................................................

เริ่มต้นครึ่งหลัง เป็นเราที่โดนขึงพืดอีกครา และเกือบเสียประตู
ดีที่ สเคอร์เทล แหย่ขาได้เหมาะเจาะยิ่ง รอดไป...
หลังอ๊วกตอนพักครึ่ง นาที ที่ 54 เมเรเลสถูกเปลี่ยนออกและเป็นเอ็นก๊อกที่เข้ามาประจำการ
อีกทั้งขยับมักซี่ที่วันนี้เล่นด้านขวาไม่ออก โยกมาด้านซ้าย ซึ่งดูดี แม้ไม่เนียนตา ก็ตาม
ขณะเดียวกันก็เอา พี่เค้าท์ โยกไปเล่นทางขวา หุบ ออเลริโอ้ มาอยู่กลาง
ดูดูแล้ว โอเค เลย เพราะเกมส์ริมเส้น ดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาเล็กน้อยถึงปานกลาง
4 นาที หลังเปลี่ยนตัว คราวนี้เป็นอัลคาราซ ที่เสียเชิงชายให้กับซัวร์เรส ใบเหลือง อีกแล้ว ครับท่าน
แต่ ป้าด !!! 7 นาทีนิดๆ หลังจากนั้น กำแพงแตก เวรแล้ว !!! ตรู
1-1 จนได้ จากลูกฟรีคิก ที่ เอ็นซ๊อคเบีย ปั่นหาประตู เป็นบอล์ลถากกบาลอัลคาราซ
และเป็น Gohouri ที่เข้าฮอร์สระยะเผาขน เรน่าหมดสิทธิ์ด้วยประการทั้งปวง ต้องยอมล่ะ!!!
เหมือนโดนลูบคม เครื่องจักรเล็กๆ เริ่มทำงานอีกครา
5 นาที หลังเสียประตู ซัวร์เรส เรียกฟาวล์ ได้อีกครั้ง เป็นมักซี่ ที่ปั่นไร้ลุ้น
นาที 72 โยวาโนวิช ถูกเรียกเข้ามาแทนที่ เดอะ เค้าท์ ที่ดูจะกรอบปานข้าวเกรียบ
5 นาทีให้หลัง ซัวร์เรสสำแดงเดช อีกครา คราวนี้หลายคนลุ้นถึงใบแดงของอัลคาราซ
แต่อย่างว่า วาสนา เล่นตลก ... ไม่มีใบแดงเกิด ขณะเดียวกัน ซัวร์เรสขันอาสาลองปั่นฟรีคิกเอง
ภาพซัวร์เรสยิงฟรีคิกให้อาแจกซ์ผุดมาในสมองทันใด... ใช่เลย
มุมซ้ายสามเหลี่ยมบนคือโฟกัส ... ระยะและทิศทาง นี่มันเกือบจุดเดียวกันเลย นี่หว่า !!!
อีกแล้วครับท่าน ... ลูกบอล์ล จูบคานสนั่นหวั่นไหว ทุกอย่างหลุดลอยไปอีกครั้ง
แม่มมมมมมม!!!! ให้มันได้อย่างนี้ซิ...
เกมส์ด้านซ้าย ยังเดินหน้าต่อ ชอทงามๆ เกิดขึ้นจาก จีเจ ที่วันนี้ดูเล่นไม่ค่อยออก
อย่างว่า การไปกับทีมชาติ สร้างปัญหาให้นักเตะเสมอ ทั้งความอ่อนล้าจากการเดินทาง และการมีส่วนร่วม
จังหวะลุ้นเริ่มจาก จีเจ แทงให้ มักซี่ ก่อนลูกบอล์ลจะมาจบที่หลุยส์ ซัวร์เรส ที่ปั่นออกไปอย่างน่าเสียดาย
ในนาที ที่ 80 กว่าๆ ... หลังจากนั้น คงไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน แม้จะสาดเข้าใส่ และบุกกระหน่ำก็ตามที
หมด 90 นาที ด้วยความเสียดายยิ่ง

......................................................................

เป็นเรื่องธรรมดาบนโลกลูกหนัง ที่อะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้ ตราบใดที่ลูกฟุตบอล์ลยังกลมอยู่
มีหลายสิ่ง หลายสาเหตุ เกิดขึ้นจนมิอาจคาดเดา
แต่ที่แน่ๆ ความอ่อนล้า อาการบาดเจ็บ และ ความไม่สมบูรณ์ กำลังเล่นงานเราอยู่เล็กๆ
4-4-2 ของ เดอะ คิง ถูกเอามาใช้อีกครา แม้ผลจะออกมาไม่งดงามอย่างที่หลายคนคาดหวัง
แต่... หาได้หมดสิ้นสิ่งดีดี ไปหมด ซะหน่อย

ซัวร์เรส กับการเปิดตัว 90 นาที
ผมมองว่า นี่แหล่ะ คนที่น่าจะคุ้มค่าทุกสตางค์แดง ...
เสียดาย ที่วันนี้อาจดูโดดเดี่ยวพอสมควร อีกทั้งยังต้องทำอะไรๆ หลายๆ อย่างด้วยตัวเอง มากไปหน่อย
แต่ทุกมิติที่แสดงศักยภาพออกมา ทั้งการสร้างสรรค์ การฉวยโอกาส การหาพื้นที่ การเปิดทางให้เพื่อน
บวกกับลูกตั้งเตะ และ การเล่นเป็นทีม ทุกอย่างดูนวลเนียน และเพลิดเพลิน
อีกทั้งยังมาพร้อมความฉลาดหลักแหลมในการเล่น ซึ่งดูได้จากการเรียกฟาวล์อย่างมีชาติตระกูล
เกือบ 10 ลูกที่เราได้ลูกตั้งเตะในระยะทำการ เพราะการเล่นของคนคนนี้
เป็นมิติที่เราร่ำหามาพอสมควร และ ลืมไปได้เลยกับคนไร้ใจ
โชคชะตา ต่างหากที่เล่นตลกและทำให้ไม่มีชื่อของซัวร์เรสบนสกอร์บอร์ด
และเมื่อไหร่ที่จิตวิญญาณแห่งลิเวอร์พัดเลี่ยนถูกปลูกฝังลงไปด้วยฝีมือ เดอะ คิง
ฟันเฟืองตัวนี้แหล่ะ จะเป็นเฟืองขับเคลื่อนชั้นดีอีกตัวหนึ่ง ทีเดียว

......................................................................

อีกคนที่ผมออกจะชื่นชมเป็นพิเศษ นั่นคือ มาร์ติน แคลลี่
ผลผลิตชั้นเยี่ยมจากแหล่งที่มาชั้นยอด ซึ่งแม้วันนี้ออกจะดูแผ่วปลายเล็กน้อย
แต่โดยรวมแล้ว นับว่าเป็นอนาคตที่จับต้องได้อย่างดียิ่ง
60-70 นาที ที่กัดไม่ปล่อย จนเอ็นซ๊อคเบีย ถึงกับใบ้ และต้องโดดหนีย้ายฝั่ง
นับเป็นผลงานที่เข้าตาไม่น้อย แม้เกมส์บุกจะดูบางเบายิ่ง
แต่การกัดจิกด้วยเกมส์รับ ช่างชดเชยสิ่งที่ขาดไปได้พอสมควร
พอเข้าใจโดยพลัน ว่า การเล่น 4-4-2 คราวนี้ ความกังวลเรื่องแนวรับเป็นเหตุหนึ่ง
กับ 5-3-1-1 นั้น แนวรับด้านข้างดูจะเป็นเรื่องรองกว่านี้หลายช่วงตัวนัก
อีกทั้งความฟิตก็ยังเป็นปัจจัยใหญ่
ถ้าขนาดต้องรอจนเกือบนาทีสุดท้าย ล่ะก็ คงต้องบอกว่า นายแน่มาก!!!
ช่วงปลายๆ ของเกมส์ มีจังหวะหลุดให้เห็นประปราย แต่ไม่ถึงกับเสียหายขนาด
อาจเพราะร่างกายที่ไม่สมบูรณ์ กรอบ และ ล้าสุดตัว ก็เป็นได้...
“ทำได้ดีแล้ว ไอ้หนู !!!”

......................................................................

สู่ความจริงกันเสียที ... เหมือนวลีที่กล่าวข้างต้น
“ขอเพียงคนยังมีชีวิตอยู่ ก็สมควรยิ้มออก ขอเพียงยังสามารถยิ้มออก ก็สมควรยิ้มให้มากไว้”
ไม่มีเรื่องน่าเสียใจ แค่น่าเสียดายนิดหน่อย กับการเก็บไม่ได้ 3 แต้ม
ฟุตบอล์ล เกมส์กีฬา ก็เป็นอย่างนี้เสมอ...
และ นี่อาจจะไม่ใช่เกมส์ที่เราเล่นได้ดีด้วยซ้ำ แต่ที่เราขาดไปบ้างเล็กน้อยอย่างแท้จริง คือ โชคชะตา
แต่โชคชะตา มิใช่หรือ ที่ทำให้เรามาค้นพบ หลุยส์ ซัวร์เรส กับ มาร์ติน แคลลี่
ทำไมจะยิ้มไม่ได้ ...

หลังเกมส์ ผมออกแวะเวียนตามเวปบอร์ด บ้างประปราย
แค่ออกไปตามหาอะไรๆ เป็นกระสัย แค่จับต้องกระแส เท่านั้น
อย่างคาด เหล่ากูรูสยาม และ บรรดาเกรียนไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม หลายๆ ที่เริ่มรุมทึ้ง เดอะ คิง
อีกทั้งเหล่าขุนพลที่ได้ลงไปวาดลวดลายในสังเวียนแห่งนี้
แม่มมม !!! เริ่มจาก เปลี่ยน เมเลเรส ออกทำไม ...
ฮ่วย!!! แม่มม นี่ไม่ใช่เกมส์วินนิ่ง นะเฟ้ย ที่แค่กดปุ่มออฟชั่นแล้วจะตั้งค่าให้มันฟิตสมบูรณ์ตลอดเวลา
หลังจากนั้น ก็ เอ็นก๊อก โดน โยวาโนวิช โดน....

สาดดดดดดดดดดดดดดด !!! เอ๊ย
ไม่เข้าใจ ว่า จะโวยวายหาพระแสงด้ามง้าวไปไหน
ทำตัวดุจผู้รอบรู้ในศาสตร์แห่งโลกฟุตบอล์ล เสียเต็มประดา
ด้วยจินตนาการสูงลิบ สวนทางกับรอยหยักในสมองที่แทบมองไม่เห็น บาทโซบ !!!

ขอโทษ เถอะ !!! หากไม่เข้าใจ ถึง “ความไว้ใจ” และ “ศรัทธา”
“ขอร้อง ไปไกลๆ ส้งติน กรู หน่อย .... พรีสสสสสสสส”


*ทุกตัวอักษร เป็นความคิดส่วนบุคคล หาได้บังอาจใดใดไม่ ... ด้วยจิตคารวะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น